config raspbian โดยไม่ต่อ mouse และ คีย์บอร์ด
1. config WIFI จากไฟล์ตั้งแต่เริ่ม boot
สร้างไฟล์ wpa_supplicant.conf ใน /boot ( sd card )
ctrl_interface=DIR=/var/run/wpa_supplicant GROUP=netdev
update_config=1
country=TH // รหัสประเทศ
network={
ssid="WIFI SSID" // ชื่อ wifi
psk="12345678" // รหัส wifi
key_mgmt=WPA-PSK
}
//กรณี access point ไม่มีรหัส
ctrl_interface=DIR=/var/run/wpa_supplicant GROUP=netdev
update_config=1
country=TH // รหัสประเทศ
network={
ssid="WIFI SSID" // ชื่อ wifi
key_mgmt=NONE
}
2. ตั้งค่าเปิดการใช้ ssh จากไฟล์ตั้งแต่เริ่ม boot
สร้างไฟล์ ssh ( ไฟล์เปล่าๆ ) บันทึกไว้ใน /boot ( sd card )
ทำ Raspberry Pi เป็นเสมือน Chromecast (Raspicast)
ลบไฟล์ที่เก่ากว่าที่เรากำหนดใน CentOS
upload larg file Apache/PHP
ในไฟล์ .htaccess
php_value upload_max_filesize 50M
php_value post_max_size 50M
php_value max_input_time 900
php_value max_execution_time 900
ในไฟล์ PHP script
ini_set(‘max_file_uploads’, “50”); //<— อันนี้เสริมเองขอรับ
ini_set(‘upload_max_filesize’, ’50M’);
ini_set(‘post_max_size’, ’50M’);
ini_set(‘max_input_time’, 900);
ini_set(‘max_execution_time’, 900);
หมายเหตุ. 50M คือขนาดไฟล์ 900 คือระยะเวลา (วินาที)
static ip / macauth @ chilli spot
nano /etc/chilli.conf
—————————————————————————————————————
##########################################################################$
#
# Sample ChilliSpot configuration file
#
##########################################################################$ Continue reading
ปลดล็อคคอขวดให้ Squid (squid 2.x centos 5)
มีโอกาสรับหน้าที่ดูแล server ชั่วคราวมาสักระยะ ก็ได้สังเกตเห็นว่า เอะทำเป็นเน็ตเราก็มีแบนวิทไม่ใช่น้อยๆ แต่ทำไมเวลาคนใช้เยอะแล้วมันอืดจัง (เกือบๆ ๒๐๐) ทั้งที่ทราฟฟิคถูกใช้ไปไม่ถึง 1 ใน 3 ด้วยซ้ำ เลยลองหาข้อมูลและมั่วๆ เอา ตอนนี้แก้ปัญหานั้นได้แล้ว เลยบันทึกกันลืมซะหน่อย …
แก้ไข Open File Limit ของ Squid
โดยการเพิ่มคำสั่ง ulimit -HSn xxxx บรรทัดแรกสุดหลังคอมเม้นในไฟล์ /etc/init.d/squid (xxxx คือจำนวนไฟล์ที่ให้ squid เปิดได้ ในที่นี้ ต้องใช้ ถึง 60000 เลยทีเดียว แต่ สำหรับทั่วไปใส่ 16384 น่าจะเพียงพอ)
คำสั่ง TOP ใน linux
เพิ่ม Hyper Terminal ใน Windows 7
สิ่งที่ต้องมี
- โปรแกรม HyperTerminal และไฟล์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (จาก Windows XP) ดาว์นโหลดได้ ที่นี่
- เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows 7
ขั้นตอน
- ดาว์นโหลดไฟล์โปรแกรมด้านบน แล้วทำการแตกไฟล์ (จะได้ โฟล์เดอร์ hypertrm พร้อม 3 ไฟล์ด้านใน
- สำหรับ Windows 7 (32bit) ให้สร้างโฟล์เดอร์ HyperTerminal ตามนี้ C:\Program Files (x86)\HyperTerminal
ส่วน Windows 7 (64bit) ให้สร้างโฟล์เดอร์ HyperTerminal ตามนี้ C:\Program Files\HyperTerminal - copy ไฟล์ hypertrm.exe ที่ได้จาก ข้อที่ 1 ไปวางในโฟลเดอร์ที่ได้สร้างไว้แล้วใน ข้อที่ 2
- copy ไฟล์ hypertrm.hlp ที่ได้จาก ข้อที่ 1 เช่นกัน ไปวางในโฟลเดอร์ Help ตามนี้ C:\Windows\Help
- copy ไฟล์ hypertrm.dll ที่ได้จาก ข้อที่ 1 อีกเช่นกัน ไปวางในโฟลเดอร์ System ตามนี้ C:\Windows\system
- ให้ทำการสร้าง short cut ชี้ไปที่ไฟล์ hypertrm.exe ที่อยู่ในโฟล์เดอร์ ตามข้อที่ 2
เสร็จขั้นตอน
เพียงเท่านี้เราก็มีโปรแกรม HyperTerminal ใช้ใน Windows 7 กันแล้ว
ปล.
หากเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วเครื่องฟ้องว่า ไฟล์ hypertrm.dll หาย หรือหาไม่เจอ ให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งไฟล์ ใน ข้อที่ 5 ไปที่ C:\Windows\system32
ตั้งค่ายืนยันการสมัครสมาชิกใน Moodle ด้วย Gmail Account
สิ่งที่ต้องมี
- บัญชีอีเมล ของ Gmail หรือ Google App
- บัญชีผู้ดูแลระบบของ Moodle
- บัญชี FTP ของ Server ที่ติดตั้ง Moodle ไว้
วิธีการ
- ล็อกอินเข้าระบบของ Moodle ในฐานะผู้ดูแลระบบ
- ไปที่เมนู (ตามลำดับ) “settings > การจัดการระบบ > เซิร์ฟเวอร์ > อีเมล”
- ด้านขวามือให้ตั้งค่าดังรูป
อธิบาย
– โฮสต์ SMTP ของ Gmail ให้พิมพ์ smtp.gmail.com:465
– ชื่อผู้ใช้ SMTP ให้พิมพ์บัญชี email ของ Gmail หรือ Google App ของท่าน
– รหัสผ่าน SMTP ให้พิมพ์รหัสผ่านผ่านของบัญชีด้านบน - กดปุ่ม “บันทึกการเปลี่ยนแปลง”
- ล็อกอินเข้าบัญชี FTP เข้าไปดาว์นโหลดไฟล์ /lib/phpmailer/class.phpmailer.php
แล้วทำการแก้ไข ในบรรทัดที่ 199
จาก public $SMTPSecure = ”;
เป็น public $SMTPSecure = ‘ssl‘;
เสร็จแล้วทำการบันทึกแล้วอัพโหลดทับไฟล์เดิม - ทำการทดสอบ โดยลองสมัครสมาชิก สังเกตว่า ระบบจะส่งเมล์ไปด้วยบัญชีข้างบน